หินอ่อน หินแกรนิต ต่างกันอย่างไร? หินควอร์ตไซต์ดีที่สุดจริงหรือ?
หินธรรมชาติเป็นหนึ่งในวัสดุตกแต่งบ้านที่ถือว่ามีราคาค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อน หินแกรนิต หรือหินควอร์ตไซต์ ดังนั้นก่อนที่จะมีการนำหินเข้าไปใช้ในการตกแต่ง จึงจำเป็นที่จะต้องรู้ข้อมูลต่าง ๆ ของหินแต่ละชนิด ทั้งลวดลาย ความแข็งแรง เหมาะสมกับจุดไหน มีข้อดีอย่างไร และการดูแลรักษาหิน เพื่อให้เราสามารถนำหินมาใช้ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และให้ออกมาสวยงามและคุ้มค่ามากที่สุด
วิธีการกำเนิด และแร่หลักของหินอ่อน หินแกรนิต หินควอร์ตไซต์
หินอ่อน เป็นหนึ่งหินในชนิดหินแปร โดยมีการแปรสภาพมาจากหินปูนและหินโดโลไมต์ เกิดจากแรงดันและความร้อนจากใต้เปลือกโลกที่ทำให้ตัวหินแปรสภาพมาเป็นหินอ่อน จะเป็นหินเนื้อผลึก ค่อนข้างเม็ดหยาบ ประกอบไปด้วยแร่แคลไซต์เป็นหลัก ถ้าเป็นหินอ่อนบริสุทธิ์จะมีสีขาว แต่ถ้ามีแร่อื่น ๆ เจือปนอยู่ด้วยก็จะทำมีหลากหลายสี
หินแกรนิต เป็นหนึ่งในหินอัคนี ประเภทหินอัคนีแทรกซ้อน เกิดมาจากหินหนืดที่เย็นตัวลงอย่างช้า ๆ ภายในเปลือกโลก ทำให้ผลึกแร่มีขนาดใหญ่และมีเนื้อที่หยาบ ประกอบไปด้วยแร่
เฟลด์สปาร์ และแร่ควอตซ์เป็นหลัก ทำให้มีความแข็งแรงค่อนข้างสูง โดยจะมีสีขาวขุ่น ๆ จากแร่เฟลด์สปาร์ สีเทาใสจากแร่ควอตซ์ และสีดำจากแร่ฮอร์นเบลนด์
หินควอร์ตไซต์ เป็นอีกหนึ่งหินในชนิดหินแปร โดยมีการแปรสภาพมาจากหินทรายเป็นหลัก เกิดจากแรงดันและความร้อนจากใต้เปลือกโลกที่ทำให้ตัวหินแปรสภาพมาเป็นหินควอร์ตไซต์ ซึ่งเป็นอีกหินมีความคงทนมากที่สุดชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยแร่ควอตซ์เป็นหลัก จึงมีความแข็งแรงสูง หากเกิดจากทรายแก้วบริสุทธิ์จะได้หินควอร์ตไซต์ที่มีสีขาวไปจนถึงสีเทา แต่มักมีแร่อื่น ๆ เจือปนทำให้หินมีสีอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไปตามชนิดแร่ในหิน
ลวดลาย
หินอ่อนและหินควอร์ตไซต์ จะมีลวดลายที่เป็นเส้นแร่แบบไม่ขนาน เพราะเป็นหินที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มหินแปรที่ถูกแปรสภาพสัมผัส เกิดจากแมกมาที่แทรกตัวขึ้นมาสัมผัสกับหินในบริเวณนั้น ความร้อนและสารจากแมกมาจึงทำให้หินในบริเวณนั้นมีการจัดเรียงตัวของแร่ใหม่ แปรสภาพกลายมาเป็นหินอ่อนหรือหินควอร์ตไซต์ ขึ้นอยู่กับแร่ดั้งเดิมของหินชนิดนั้น ๆ
หินแกรนิต จะมีลวดลายเป็นชิ้นแร่ เกล็ดแร่ และเนื้อหินมีความสม่ำเสมอกัน ตัวผลึกแร่จะมีการยึดเกาะกันเหนียวแน่น ทำให้เนื้อหินมีความแน่นและแข็ง สำหรับหินแกรนิตที่พบในไทยมักจะเป็นหินแกรนิตที่มีลายเป็นแบบลายแต้ม หรือเป็นเกล็ดแร่กระจายตัวอยู่ทั่วหินโดยไม่เรียงเป็นลวดลายเส้น แต่ในต่างประเทศหินแกรนิตบางชนิดเกล็ดแร่จะมีการเรียงลวดลายเป็นแบบลายเส้น ออกมามีความคล้ายกับลายเส้นแร่ของหินอ่อน แต่ก็ยังมีความเป็นเกล็ดแร่ให้เห็น ไม่เรียบเนียนเหมือนหินอ่อนและหินควอร์ตไซต์
ความแข็งแรง
- หินอ่อน จะเป็นหินที่มีความแข็งแรงน้อยที่สุด เพราะเกิดมากจากแคลเซียมคาร์บอเนต หรือหินปูนเป็นหลัก โดยจะมีค่าความแข็งของโมสอยู่ที่ ระดับ 3 เท่านั้น นับได้ว่าไม่ได้แข็งมาก เพราะว่า เล็บของคนก็มีความแข็งอยู่ที่ 2.5 แล้ว หรือเหรียญเพนนีก็มีค่าความแข็งอยู่ที่ 3.5 ซึ่งสามารถทำให้หน้าหินเป็นรอยได้แล้วถ้าไม่มีการเคลือบหน้าหินไว้
- หินแกรนิต จะมีความแข็งแรงที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากประกอบด้วยแร่เฟลด์สปาร์ ที่มีค่าความแข็งของโมสอยู่ที่ ระดับ 6 และแร่ควอตซ์ที่มีค่าความแข็งแรงของโมสอยู่ที่ ระดับ 7 โดยรวมแล้วหินแกรนิตจึงมีค่าความแข็งอยู่ที่ระดับ 6-6.5 ขึ้นอยู่กับปริมาณแร่ที่เป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะแข็งแรงกว่ามีดทำครัวซึ่งมีค่าความแข็งที่ 5.5 จึงเหมาะสำหรับการนำไปทำเป็นท็อปครัว เพราะจะเกิดรอยได้ยากกว่า
- หินควอร์ตไซต์ จะเป็นหินที่มีความแข็งแรงมากที่สุดในหินทั้ง 3 ชนิด เพราะจะประกอบไปด้วยแร่ควอตซ์เป็นหลัก ทำให้มีค่าความแข็งแรงของโมส อยู่ที่ระดับ 7 ซึ่งจะแข็งกว่าตะปูเหล็กที่มีความแข็งอยู่ที่ระดับ 6.5 ด้วย จึงเหมาะสำหรับการนำไปตกแต่งหลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นจุดที่ใช้งานน้อยอย่างผนังทีวี หรือจุดที่ใช้งานหนักอย่างเช่น ท็อปครัว
ข้อดีของแต่ละหิน
ข้อดีของหินธรรมชาติหลัก ๆ เลยจะเป็นในเรื่องของลวดลายที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง หินแต่ละแผ่นที่ถูกนำออกมาก็จะมีลายที่ไม่เหมือนกันเลย เพราะลายตามธรรมชาติจะมีการขยับไปเรื่อย ๆ ตามสภาพแร่บนภูเขา ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละแผ่น ๆ นั้น
และหินทั้ง 3 ชนิดนี้ยังสามารถเก็บความเย็นได้ดี มีความทนทานสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานเป็น 100 ปี ถ้าได้รับการดูแลที่ถูกวิธีเลยทีเดียว
หินอ่อน
- จะมีข้อดีตรงที่ลวดลายจะมีความสวยงาม อ่อนช้อย และมีสีที่หลากหลายเฉด หลากหลายโทน สามารถเลือกให้เข้ากับบ้านได้เกือบทุกสไตล์
หินแกรนิต
- จะมีข้อดีตรงที่มีความแข็งแรงสูง ไม่เป็นรอยขูด ขีดง่าย สามารถทนกรด ทนด่างได้ในระดับหนึ่ง และยังทนความร้อนได้อย่างดีเยี่ยมแต่ก็ยังไม่แนะนำให้มีการวางของร้อนจัด ๆ อย่าง การวางกระทะลงบนหินโดยตรง นอกจากนี้เก็บความเย็นในตัวหินได้แต่อาจจะไม่เท่าหินอ่อน
หินควอร์ตไซต์
- จะเป็นการรวมข้อดีของทั้งหินอ่อน และหินแกรนิตไว้ด้วยกันเลย ก็คือมีลวดลายสวยงาม อ่อนช้อย และมีความแข็งแรงที่สูงมาก ๆ ไม่เป็นรอยง่าย ทนทานความร้อนและสภาพอากาศ
ถ้าถามว่าหินควอร์ตไซต์ดีที่สุดใช่หรือไม่ เราก็คงจะต้องตอบว่าใช่ ในเรื่องของประโยชน์ที่จะได้รับจากหินควอร์ตไซต์ที่ได้ทั้งความสวยงามและความแข็งแรง แต่ก็อาจจะต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างจะสูงกว่า หินอ่อน และหินแกรนิต แต่ก็นับว่าคุ้มค่า คุ้มราคากับคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ได้มา
แต่ละหินเหมาะกับตรงการติดตั้งตรงไหนบ้าง
ในส่วนของการติดตั้ง เนื่องจากค่าความแข็งที่ไม่เท่ากันในแต่ละหิน ทำให้บางหินสามารถติดตั้งได้แค่ในบางพื้นที่เท่านั้น
หินอ่อน - สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ ๆ ไม่ได้มีการใช้งานหนัก ๆ มากนัก เช่น ผนัง ท็อปโต๊ะ ท็อปครัวฝรั่ง บันได หรือพื้นที่ไม่ได้มีการสัญจรมาก ๆ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งต่าง ๆ โดยสามารถแก้จุดอ่อนนี้ได้โดยการเคลือบหิน จะทำให้หน้าหินเป็นรอยได้ยากขึ้น และสามารถขัดเคลือบใหม่เพื่อลบรอยได้ด้วย แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้แข็งแรงได้เท่ากับหินแกรนิตและหินควอร์ตไซต์
หินแกรนิต และหินควอร์ตไซต์ - เนื่องจากค่าความแข็งที่อยู่ในระดับ 6-7 ทำให้หินทั้ง 2 ชนิดนี้มีความทนทานที่มากกว่าหินอ่อน จึงสามารถนำไปติดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ ได้หลากหลายมากกว่า โดยนอกจากนำไปติดตั้งได้เหมือนหินอ่อนแล้ว ยังสามารถนำไปติดตั้งเป็นท็อปครัวไทยที่มีการใช้งานหนัก พื้นภายในและภายนอก หรือจะนำไปปูผนังสระว่ายน้ำก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะหินควอร์ตไซต์ที่มีความทนต่อสภาพอากาศ
แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก่อนการนำไปติดตั้งควรจะต้องมีการเคลือบหน้าหิน หรือเคลือบกันซึมต่าง ๆ เพื่อให้หินมีความสามารถในการคงทนมากขึ้น และยังช่วยให้น้ำไม่ซึมผ่านรูหิน จนทำให้เกิดรอยด่างบนหน้าหินอีกด้วย
การดูแลรักษา
แต่ละหินก็จะมีการดูแลรักษาที่คล้าย ๆ กันแต่อาจจะแตกต่างกันไปตามความแข็งของหิน ถ้าหินที่มีความแข็งมากก็ไม่ต้องดูแลบ่อยเท่าหินที่มีความแข็งน้อยกว่า
- เนื่องจากธรรมชาติของหิน ส่วนใหญ่จะมีรูพรุนซึ่งทำให้น้ำต่าง ๆ สามารถซึมเข้าไปในเนื้อหินได้ ดังนั้นเมื่อทำอะไรหกบนตัวหิน แนะนำให้รีบเช็ดออกให้สะอาด เพื่อไม่ให้ตัวหินเป็นรอยคราบ
- มีการเช็ด ทำความสะอาดหินอยู่เป็นประจำ อาจจะ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยการใช้น้ำยาล้างจานหรือสบู่ผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่ไม่เข้มข้นมากเช็ดทำความสะอาดหน้าหิน และเช็ดให้แห้ง หรือใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับการทำความสะอาดหิน และอาจจะมีการใช้น้ำยาดันฝุ่นบ้างในบางครั้งเพื่อให้หินดูใหม่อยู่เสมอ
- ควรมีการเคลือบหน้าหินใหม่เมื่อสารเคลือบเริ่มเสื่อมสภาพ เพื่อป้องกันรอยและคราบต่าง ๆ โดยหินอ่อนจำเป็นจำต้องเคลือบบ่อยหน่อยเนื่องจากตัวหินไม่แข็งมากนักและสารเคลือบเสื่อมสภาพง่ายกว่า ส่วนหินแกรนิตและหินควอร์ตไซต์อาจจะเคลือบแค่ครั้งแรกก่อนการติดตั้งครั้งเดียวหรืออาจจะนาน ๆ เคลือบทีก็ได้
- ถ้าหน้าหินเป็นรอยเราสามารถขัดเพื่อลบรอยได้ โดยสามารถทำเองก็ได้ หรือจะจ้างช่างเฉพาะทางก็ได้ แต่ทางเราขอแนะนำให้จ้างช่างเฉพาะทางจะดีกว่า เนื่องจากหินอ่อนจะมีเครื่องมือและน้ำยาเฉพาะสำหรับการจัดการหิน
- สำหรับคราบชา กาแฟ ไวน์ สามารถใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ส่วน ผสมกับน้ำสะอาด 4 ส่วน เช็ดทำความสะอาดจนกว่าคราบจะหาย